ตามประกาศของ Microsoft ที่ https://www.microsoft.com/en-us/nonprofits/eligibility แล้ว สิ่งที่น่าสนใจมากๆ คือองค์กร NGO ที่ไม่แสวงหาผลกำไรสามารถใช้ Microsoft 365 ได้ฟรี ซึ่งได้แก่ SKU ต่อไปนี้
- Microsoft 365 Business Basic (Nonprofit Staff Pricing) 5392a891-cf7a-47c2-abf2-e9d131cad575
-
Microsoft 365 Enterprise E1 (Nonprofit Staff Pricing) 83dca3b9-3d6c-4547-8c5f-ba1f69b130f8
และมีเกณ์ในการพิจารณากับ CSP นิดหน่อยตามนี้ครับ หากอ่านผ่านๆ แล้วพบว่าตรงตามเกณฑ์ ก็โหลดฟอร์มยืนยันตัวตนแล้วส่งกลับมาได้เลยที่ support@netway.co.th ได้เลยครับ
เกณฑ์ที่ 1. Organization eligibility
องค์กรจะต้องมีสถานะเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (nonprofit organizations หรือ NGO) หรือเป็นองค์กรอิสระไม่สังกัดรัฐบาล (non-governmental) และมีสถานะว่าเปิดกิจการเพื่อการกุศลในประเทศไทย โดยยึดถือตามรายละเอียดต่อไปนี้
- องค์กรต้องได้รับการยกเว้นภาษีตามประกาศหรือระเบียบของกรมสรรพากร;
- เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับการรับรองโดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย; หรือ
- เป็นมูลนิธิหรือสมาคมที่ลงทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยหรือกระทรวงวัฒนธรรม
ห้องสมุดสาธารณะสามารถรับสิทธิ์ได้หากเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแต่ไม่มีสถานะเป็นองค์กรการกุศล ซึ่งจะได้รับสิทธิ์เฉพาะซอฟต์แวร์แบบติดตั้งในองค์กรเท่านั้นและเฉพาะเมื่อซอฟต์แวร์เหล่านั้นถูกเปิดการเข้าถึงโดยสาธารณะได้ โปรดดูที่ Microsoft Volume Licensing Website สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์การใช้งานเกี่ยวกับห้องสมุดสาธารณะ (กรณีการใช้ Cloud Service ให้ใช้ Education License แทน Charity License)
อ้างอิง: https://query.prod.cms.rt.microsoft.com/cms/api/am/binary/RE1Ftl8
เกณฑ์ที่ 2. Mission eligibility
กิจการขององค์กรจะต้องเป็นไปแบบไม่แสวงหาผลกำไรและมีพันธกิจเพื่อมอบคุณค่าคืนแก่สังคม เช่น เยียวยาผู้ยากไร้ ส่งเสริมการศึกษา ยกระดับความเป็นอยู่ของสังคม อนุรักษ์วัฒนธรรม รักษาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน หรือสร้างสรรค์สังคมที่สามัคคี ฯลฯ
องค์กรที่ไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวได้แก่:
- NGO ที่ไม่ได้รับการอนุมัติสถานะความเป็นการกุศลใดๆ จากหน่วยงานของรัฐ;
- องค์กรภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งองค์กรนานาชาติหรือสหประชาชาติ;
- โรงเรียนและสถาบันการศึกษาที่ได้รับสิทธิ์ Education License อยู่แล้ว;
- องค์กรสาธารณสุขที่ได้รับสิทธิพิเศษจาก Microsoft Health Programs อยู่แล้ว แต่ยกเว้น NGO ที่มีพันธกิจต่อไปนี้: (1) เป็นประชาคมของชุมชน ; (2) สุขภาพของสตรี ; (3) บ้านพักดูแลรับรองพระธุดงค์; (4) บริการฉุกเฉิน และ (5) ธนาคารเลือด เนื้อเยื่อและอวัยวะ สามารถรับสิทธิ Charity License ได้
- สมาคมทางวิชาชีพ การพาณิชย์ และการค้า;
- การนำไปสนับสนุนงานอีเว้นต์ นิทรรศการ หรือการแสดง;
- กิจกรรมระดมทุน เช่น รณรงค์ระดมทุนเพื่อโรคมะเร็งหรือทุนอาหารกลางวัน
- องค์กรทางการเมือง สภาแรงงาน หรือสภากลุ่มภราดรภาพ;
- ผู้ที่ทำ Refurbisher ที่รับบริจาคเครื่องฮาร์ดแวร์เก่าและนำมาติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อบริการจาคให้สถาบันการศึกษา หากเข้าข่ายนี้โปรดลงทะเบียนเป็น Registered Refurbisher Program
- บุคคลทั่วไป
เกณฑ์ที่ 3. User eligibility
Charity License นี้มอบให้ user ที่เป็นพนักงานของ NGO ที่ได้รับเงินเดือนและพนักงานพาร์ทไทม์ (Non Full-time Employee หรือ Non-FTE) ที่ทำงานในองค์กร NGO เท่านั้น และห้าม user นั้นนำ Charity License เพื่อไปใช้งานและแสวงหาผลกำไรส่วนตน อาสาสมัคร สมาชิก และผู้อุปถัมภ์ของ NGO นั้นไม่สามารถขอรับสิทธิ์นี้ได้
เกณฑ์ที่ 4. License restrictions
องค์กรไม่สามารถแชร์ โอน หรือจำหน่ายต่อสิทธิ์การใช้งานที่ได้รับให้แก่องค์กรอื่นๆ ได้ รวมทั้งพาร์ทเนอร์ของ NGO เองหรือองค์กรอิสระในเครือข่ายด้วย
เกณฑ์ที่ 5. Non-discrimination
องค์กรจะไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมหากมีนโยบายหรือพันธกิจในการเลือกวิธีปฏิบัติ (Discrimination) ในการจัดจ้าง จ่ายค่าแรง การสอนงาน การเลื่อนขั้น การเลิกจ้าง และ/หรือการเกษียณอันเกิดจากอคติทางเชื้อชาติ เพศ ชาติกำเนิด ศาสนา อายุ ความพิการ เพศ ตัวตน สถานะการแต่งงานการตั้งครรภ์ ความสนใจทางเพศ ความคิดทางการเมือง สมาชิกภาพของสหภาพ หรือ สถานะทางทหาร
เกณฑ์นี้ไม่รวมข้อกำหนดทางศาสนาซึ่งได้รับยกเว้นโดยกฎหมายด้านการเลือกวิธีปฏิบัติ (Discrimination)
ในการขอรับสิทธิ ลูกค้าต้องเตรียมเอกสารยืนยันตัวตนที่ออกโดยภาครัฐด้วยนะครับ แต่อันดับแรก ให้กรอกเอกสารยืนยันตัวตนก่อนแล้วส่งเอกสารสำเนาตามมาได้ครับ