โลกยุคใหม่ ยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วราวสายฟ้า ทำให้หลาย ๆ องค์กรที่มีระบบ Server ไว้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นแบบ On-Premise ก็ดี On Cloud ก็ดี เริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องของการบริหารจัดการระบบ Server ของตนเองมากกว่าเดิม เหตุผลรองรับมีมากมาย เช่น เคยใช้งานประจำอยู่ที่ออฟฟิศแต่พอมีวิกฤตโควิด-19 ก็ต้องปรับเปลี่ยนไป Work From Home พอเป็นแบบนี้แล้ว ผู้ที่รับผิดชอบดูแลระบบ Server ก็ต้องดูแลให้ระบบรองรับได้ด้วย ไม่เช่นนั้นการทำงานของพนักงานจะไม่มีประสิทธิภาพ
พอกล่าวมาถึงจุดนี้ก็เริ่มคิดกันแล้วได้แล้วไหมว่าเราควรดำเนินการอย่างไรจึงจะทำให้ระบบ Server ขององค์กรได้รับการดูแลอย่างดี มีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีในยุคนี้ก็จะนึกถึงบริการที่ชื่อว่า Managed Server Service ซึ่งผู้ให้บริการก็มีหลายราย เน็ตเวย์เองก็มีบริการนี้เช่นกัน แม้จะยังมีอีกหลายองค์กรที่มีมุมมองว่า สามารถดูแลระบบ Server ด้วยตนเองได้โดยไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการ Managed Server Service ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะหากองค์กรนั้นมีความพร้อมที่จะดำเนินการดูแลด้วยตนเอง
นั่นคือที่มาของการนำเสนอเรื่อง "Managed Server Service and Self-Managed Server" เราอยากนำเสนอข้อมูลให้มองภาพของความแตกต่างระหว่าง Managed Server Service และ Self-Managed Server ว่าแตกต่างกันอย่างไร
Managed Server Service นั้นถ้าเราให้คำจำกัดความอย่างง่ายก็คือการที่ผู้ให้บริการพร้อมให้บริการในการเข้ามาดูแลระบบ Server ให้คุณ ถามว่าดูแลอะไรบ้าง เช่น การดูแลในเรื่อง Server Performance, การใช้ Monitoring System เข้ามาตรวจสอบการทำงานของ Server การออก Report ต่าง ๆ ของระบบ Server เพื่อนำไปวิเคราะห์วางแผนจัดการ Server การที่มีทีมงานระดับ Engineer คอยดูแลตลอด 24 X 7 เป็นต้น
Self-Managed Server เองก็เช่นกันถ้าให้คำจำกัดความอย่างง่ายก็คือการดูแลระบบ Server ด้วยตนเองหรือด้วยทีมงานขององค์กรเอง นั่นเอง
Managed Server Service ที่ดีควรมีอะไรบ้าง?
1. Technical Expertise ประสบการณ์ด้านเทคนิคโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีประสบการณ์มายาวนานในการดูแลระบบ Server เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจว่าระบบ Server ของตนได้รับการดูแลจากคนที่มีประสบการณ์
2. The most advanced technology มีความสามารถในเรื่องของเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการโดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องไปลงทุนสูงให้ได้มา เช่น Monitoring System Patch Management
3. Flexibility and Scalability มีความเข้าใจในระบบ Server ที่หลากหลายเพื่อที่จะสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะกับระบบ Server ที่ผู้ใช้บริการมีได้อย่างตรงตามความต้องการ
4. Business Application มีบริการอื่นๆ ที่หลากหลาย ที่สามารถนำมาต่อยอดธุรกิจของผู้ใช้บริการได้ เช่น Microsoft 365 SSL Software License Document Signing
5. Proactive Stance มีการบริหารจัดการเชิงรุกในลักษณะที่เป็น Proactive เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น สามารถแจ้งผู้ใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว
6. Visibility มี Web-based Customer Portal เพื่อให้ผู้ใช้บริการรับรู้ถึงสถานภาพของระบบ Server ของตนเองผ่าน Dashboard ได้อย่างสะดวก สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน Customer Portal ได้ตลอดเวลา
7. Round-the-clock Support มีเจ้าหน้าที่ดูแล 24 x 7
8. Service Level Agreements มี SLAs ในการให้บริการเพื่อให้ผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจ
9. Security ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย
Self-Managed Server มีอะไรบ้าง?
1. องค์กรต้องมีความจำเป็นที่จะต้องมีทีมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์
2. การดูแลระบบ Server ต้องได้รับการดูแลจากทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์กรเท่านั้น
3. ทีมที่ดูแลระบบ Server ต้องมีทักษะความสามารถสูง อาจมีการส่งไปเทรนนิ่งให้ได้ทักษะที่พร้อมดูแลระบบ Server ได้
4. เป็นไปได้ยากในการเฝ้าดูแลระบบ Server ได้ตลอดเวลา 24 x 7
5. เป็นไปได้ยากที่จะทำเรื่อง Server Operate ไปพร้อมๆ กับ Server Management
Comparison
คุณคงได้ข้อมูลในใจคร่าวๆ แล้วว่า Managed Server Service หรือ Self-Managed Server แบบไหนที่ตรงตามความต้องการของคุณมากกว่า ถ้าหากการจัดการดูแล Server ด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่ยุ่งยากแล้วนั้น คุณสามารถใช้บริการ Managed Server Service โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Netway ได้ ตลอด 24 ชม. ที่
Line ID: @netway (https://lin.ee/670zPPd)
แชทผ่านหน้าเว็บไซต์ : www.netway.co.th
Email: nwteam@netway.co.th
โทร. 02-055-1095